การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ใช่ภัยคุกคามอันห่างไกล แต่เป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นแล้ว และทำให้เกิดเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรงและภัยพิบัติอยู่บ่อยครั้งและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม เกิดการสูญเสียชีวิตและสร้างความเสียหายอันใหญ่หลวง ทำให้ครอบครัวหลายครอบครัวต้องหนีออกจากบ้านเรือนของตน และยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านอาหารและการดำรงชีพด้วย วิกฤติสภาพภูมิอากาศจึงถือเป็นวิกฤติด้านมนุษยธรรม และราคาที่ต้องจ่ายจากการไม่ลงมือทำอะไรเลยก็ยิ่งน่าตกตะลึง ทั้งนี้ หนทางที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบด้านมนุษยธรรมที่เกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต มีเพียงการกระตุ้นหนุนเสริมให้มีการนำเอามาตรการลดผลกระทบและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมาใช้ร่วมกันในวงกว้างเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตการณ์ไฟป่าในออสเตรเลีย พายุไซโคลนรุนแรงพัดถล่มในบาฮามาส ปรากฎการณ์ “ดีซูด” หรือสภาพอากาศหนาวเย็นรุนแรงที่ปกคลุมมองโกเลีย ไปจนถึงเหตุการณ์น้ำท่วมและโคลนถล่มในแอฟริกาตะวันออก… เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ถือเป็นสิ่งยืนยันให้เราเห็นถึงสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มิได้เป็นเพียงภัยอันตรายและสร้างความวิตกกังวลต่ออนาคตร่วมกันของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดซึ่งผลกระทบด้านมนุษยธรรมที่จะสร้าง หายนะต่อชีวิตผู้คนทั่วโลกนับล้าน ...