จากยูเครนตะวันออกสู่ชีวิตใหม่ในรัสเซีย

บทความ / เรื่องเล่าจากภาคสนาม

จากยูเครนตะวันออกสู่ชีวิตใหม่ในรัสเซีย
ICRC เริ่มให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยทางตะวันออกของประเทศยูเครนตั้งแต่ปี 2014 มีครอบครัวชาวยูเครนจำนวนมากตัดสินใจอพยพลี้ภัยความรุนแรงมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ทางตอนใต้ในประเทศรัสเซีย การทิ้งบ้านและชีวิตที่คุ้นเคยไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ความปลอดภัยของครอบครัวเป็นของมีค่าราคาแพงที่พวกเขายอมเสี่ยงทุกอย่างเพื่อแลกมา สามปีผ่านไป ชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง? นาตาเลีย, วาเซลี่ และ ลูบอฟ จะเป็นตัวแทนบอกเล่าเรื่องราวให้พวกเราได้รับรู้ นาตาเลีย

ก่อนยูเครนจะเข้าสู่ความขัดแย้งอย่างปัจจุบัน นาตาเลียมักเดินทางไปรัสเซียเพื่อรับงานเล็กๆ น้อยๆ ตามฤดูกาล ดังนั้นเมื่อเหตุการณ์ในยูเครนเริ่มไม่น่าไว้วางใจ นาตาเลียจึงเป็นครอบครัวแรกๆ ที่เคลื่อนไหวออกจากบ้านเก่า มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองทากันรอกทางตอนใต้ของรัสเซีย ‘ฉันเคยทำงานในเมืองนี้ตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่อง แต่การย้ายมาอยู่ที่นี่ถาวรมันต่างออกไป ฉันไม่มีงานหรือรายได้ประจำและมักต้องพึ่งพาเพื่อนเพื่อรับงานเล็กๆ น้อยๆ งานบางอย่างก็แปลกมากจนไม่คิดว่าจะมีคนจ้าง เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ฉันไม่เคยคาดคิด’ ครอบครัวของนาตาเลียพยายามประหยัดเงินที่หามาอย่างยากลำบาก การปลูกสวนของตัวเองเป็นหนึ่งในทางออกเรื่องค่าใช้จ่ายที่ดี ‘ผักสวนครัวช่วยเราได้มาก’ เธอเล่า ‘เราทำอาหารบนเตาที่ใช้สำหรับให้ความร้อนในบ้าน ชีวิตของพวกเราเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน’ วาเซลี่ วาเซลี่และครอบครัวย้ายมาอยู่เมืองทากันรอกตั้งแต่ปี 2014 ตอนนี้ทั้งเขา ภรรยา และลูกๆ ทั้ง 5 อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ในตัวเมือง ‘ฉันต้องทำงานหนักขึ้นมาก แต่นั่นเป็นสิ่งที่ดี พวกเราไม่เคยขอความช่วยเหลือจากใคร ในทางตรงกันข้าม เราพยายามมากเป็นสองเท่าเพื่อช่วยเหลือญาติพี่น้องที่ไม่โชคดีแบบเรา เมื่อ 3 ปีก่อน เราทิ้งทุกอย่างไว้ที่ยูเครน บ้าน สวน และญาติพี่น้อง ใครจะคิดว่าชีวิตจะกลายเป็นแบบนี้’ วาเซลี่รับงานทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่เว้นแม้แต่การซ่อมหลังคาหรือช่วยขุดหลุมให้เพื่อนบ้าน ‘บางทีเมื่องเรามองย้อนกลับไปข้างหลัง มันเหมือนว่าความหวังที่จะมีชีวิตแบบเดิมหรือมีอนาคตที่ดีกว่าในรัสเซียเป็นเรื่องยากเหลือเกิน’ ลูบอฟ ลูบอฟ แปลว่า รัก ในภาษารัสเซีย เธอและครอบครัวย้ายจากยูเครนมาสร้างชีวิตใหม่กราสนาดา ภูมิภาคทางตอนใต้ของรัสเซีย ‘เราค่อยๆ ปรับตัวกับชีวิตที่นี่’ เธอกล่าว ‘ตอนเรามาถึงในปี 2014 เราต้องนอนในสถานีรถไฟด้วยซ้ำ โชคดีว่ามีชาวบ้านยกบ้านหลังเล็กๆ ในหมูบ้านให้เราอยู่ เราต้องเริ่มทุกอย่างใหม่หมด ที่ยูเครนเรามีบ้านหลังใหญ่พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ตรงกันข้ามกับบ้านหลังปัจจุบันที่ไม่มีแม้แต่เครื่องมือทำความสะอาด พวกเราสี่คนต้องทำงานบ้านด้วยมือล้วนๆ ชีวิตที่นี่อาจฟังดูยากก็จริง แต่ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน ความปลอดภัยของครอบครัวก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุด’
แบ่งปันบทความนี้