![25 ปี ทุ่นระเบิดสังหาร มรดกสงครามในประเทศกัมพูชา](https://blogs.icrc.org/th/wp-content/uploads/sites/104/2017/12/rsz_1rsz_landmines_2-712x620.jpg)
45-year-old mine victim Tith Pao at home in Rattanak Mondul district, Battambang, Cambodia. May 2017.
Tith Pao ในวัย 45 ปี ดูเป็นผู้ชายที่มีความสุข เขาเป็นทั้งชาวนาที่ประสบความสำเร็จ มีที่นาเป็นของตัวเอง และเป็นพ่อที่น่าเคารพในสายตาภรรยาและลูกๆ ใครจะรู้ว่าย้อนกลับไป 25 ปี ชายท่าทางใจดีตรงหน้า เคยเป็นเหยื่อทุ่นระเบิดสังหารจนต้องเสียเท้ากลายเป็นคนพิการตั้งแต่อายุ 20 ปี
ตำบล Rattanak Mondul เมือง Battambang ประเทศกัมพูชา – เรารู้จัก Tith Pao ครั้งแรกในปี 1992 ตอนนั้นกัมพูชาขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีทุ่นระเบิดมากที่สุดในโลก รองจากอัฟกานิสถานและแองโกล่า 25 ปีให้หลัง เรากลับมาเยี่ยม Pao อีกครั้งเพื่อเห็นภาพที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้กัมพูชาแทบปราศจากทุ่นระเบิดและ Tith Pao ก็ดูต่างจากเดิมอย่างลิบลับ
ต้นศตวรรษที่ 1990 กัมพูชามีทุ่นระเบิดสังหารประมาณ 8-10 ล้านลูก จำนวนที่ว่ามากกว่าจำนวนประชากรรวมกันทั้งประเทศ และแม้จะให้ทุกคน ทั้งผู้ชาย เด็ก และผู้หญิงมาช่วยกันเหยียบระเบิดคนละลูก ก็ยังไม่แน่ว่าสามารถกำจัดระเบิดเหลานี้ออกจากพื้นที่ประเทศได้หมด
ทุ่นระเบิดมากมายเป็นมรดกจากการสู้รบอันยาวนานของกลุ่มเขมรแดง กลุ่มต่อต้านคอมมิวนิสต์ กลุ่มทหารเวียดนาม รวมไปถึงกองทัพสหรัฐฯ กลายเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงต่อการเดินทางกลับถิ่นฐานเดิมของผู้ลี้ภัยและพลัดถิ่นในระหว่างสงคราม ทั้งยังกีดขวางโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจและการบูรณะประเทศ
ICRC ในฐานะที่เป็นองค์กรมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการเก็บกู้ระเบิดเพื่อเปลี่ยนพื้นที่สงครามให้สามารถกลับมาทำการเกษตรและอยู่อาศัยได้อีกครั้ง จึงร่วมมือกับองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) 6 แห่ง ภายใต้ชื่อ The International Campaign to Ban Landmines (ICBL) โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ มุ่งกำจัดทุ่นระเบิดสังหารทั่วโลกให้ได้ภายในปี 2025
ปัจจุบัน ICBL มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์มากกว่า 1,300 องค์กร ทำงานอยู่ใน 100 ประเทศทั่วโลก เพื่อผลักดันให้รัฐบาลแต่ละประเทศร่วมมือร่วมใจปฎิบัติตามอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการปรับลดอาวุธอย่างเต็มรูปแบบและกำหนดให้มีการทำลายและเลิกการผลิตทุ่นระเบิด จนถึงตอนนี้อนุสัญญาออตตาวามีผู้ร่วมลงนามถึง 163 ประเทศ จาก 195 ประเทศทั่วโลก
สำหรับกัมพูชา องค์กรด้านมนุษยธรรมอย่าง HALO Trust, Mines Advisory Group ฯลฯ ได้เข้ามาปฎิบัติหน้าที่เพื่อเก็บกู้ระเบิดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20 ปี กำจัดทุ่นระเบิดสังหารในพื้นที่สงครามไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็น ชาวกัมพูชาหลายครอบครัว สามารถกลับบ้านและเริ่มการเพราะปลูกในพื้นที่สงครามได้อย่างปลอดภัย
“มองย้อนกลับไปในอดีต สิ่งที่ผมจำได้มีแต่ความกลัว แต่ตอนนี้ชีวิตของผมเป็นเหมือนต้นไม้ที่เริ่มผลิดอกออกผลอีกครั้ง” Pao กล่าว
ในปี 1992 Pao เป็นหนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายจำนวน 1,573 คนที่ต้องเสียอวัยวะหรือชีวิตจากระเบิดสังหาร ในปีที่ผ่านมา เหยื่อระเบิดเหลือเพียง 42 ราย เท่านั้น
ชิวิตของ Pao ไม่ง่าย หลังเสียเท้าไปได้เพียงเดือนเดียว เขาจำใจต้องกลับไปหาไม้ในพื้นที่เสี่ยงภัยอีกครั้ง ‘ผมรู้สึกกลัวที่ต้องกลับไปในป่า แต่มันเป็นทางเลือกเดียวสำหรับการเลี้ยงปากท้อง’ เช่นเดียวกับชาวกัมพูชากว่า 12,000 ชีวิตที่เสียบ้านจากสงคราม ครอบครัวของ Pao ต้องอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่แสนแออัด การหาไม้ไปขาย เป็นรายได้ทางเดียวของครอบครัว
![](https://blogs.icrc.org/th/wp-content/uploads/sites/104/2017/12/1-1024x676.jpg)
หลังได้รับขาเทียมจาก ICRC และเริ่มทำกายภาพบำบัด ไม่นานเขาก็เริ่มคุ้นเคยกับอวัยวะชิ้นใหม่ ที่จริงแล้วทุ่นระเบิดส่วนใหญ่ในกัมพูชา ถูกผลิตมาเพื่อทำให้พิการมากกว่าเสียชีวิต ดังนั้นจึงมีชาวกัมพูชาจำนวนไม่น้อยต้องสูญเสียอวัยวะในขณะเก็บของป่าหรือทำนา ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่มันเป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นพ่อหรือสามีที่มีปากท้องต้องเลี้ยงดู
![](https://blogs.icrc.org/th/wp-content/uploads/sites/104/2017/12/2-1024x680.jpg)
ตำบล Sdao ในเมือง Rattanak Mondul เป็นตัวอย่างที่ดีของย่านชุมชนที่กลายเป็นเขตต่อสู้ในช่วงสงคราม เขตแดนระหว่างเขมรแดงและฝ่ายตรงข้าม ลากตัดผ่านบริเวณเมืองพอดี ทำให้พื้นที่นี้เต็มไปด้วยทุ่นระเบิดมากมาย และแม้สงครามจะจบไปในปี 1998 แต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังหวาดกลัวเกินกว่าจะกลับเข้าไปอาศัย ผ่านไป 25 ปี ด้วยความช่วยเหลือขององค์กรต่างๆ ทุกวันนี้ตำบล Sdao กลับมาเป็นแหล่งชุมชนที่คึกคัก ปราศจากอันตรายจากระเบิด
![](https://blogs.icrc.org/th/wp-content/uploads/sites/104/2017/12/3-1024x680.jpg)
แม้ร่างกายจะพิการ แต่ Pao ก็เล่าให้เราฟังอย่างภาคภูมิใจว่าเขาสามารถทำมาหาเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี Srey Nouy ภรรยาของเขาบอกเราว่าการแต่งงานของทั้งสองเคยเป็นที่กังขาของคนในค่าย คนส่วนใหญ่มองว่าความพิการของเจ้าบ่าวจะทำให้ครอบครัวต้องลำบาก ‘และเวลาก็พิสูจน์ชัดว่าพวกเขาคิดผิด’ Srey Nouy กล่าว ตอนนี้เธอและลูกๆ ทั้ง 4 มีชีวิตอย่างไม่ขัดสนบนที่ดินของตัวเอง
![](https://blogs.icrc.org/th/wp-content/uploads/sites/104/2017/12/4-1024x680.jpg)
เมื่อสงครามสงบ Pao รีบย้ายกลับมาบ้านเก่า ที่นั่น เขามีที่ดินอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากแม่ แต่ก็ต้องรอจนกระทั่ง Cambodian Mine Action Center เข้ามาเก็บกู้ระเบิดจากพื้นที่เสียก่อน ทั้งครอบครัวจึงสามารถกลับมาอยู่อาศัยได้ตามปกติ ตอนนี้เขาแบ่งพื้นที่บางส่วนเพื่อเลี้ยงปลา ทำนา และอยู่อาศัย ‘ขีวิตในค่ายช่างยากลำบาก เราทำอะไรไม่ได้มาก ใครจะไปคิดว่าตอนนี้เราจะมีที่ดินเป็นของตัวเอง’ Pao เล่าให้ฟัง
![](https://blogs.icrc.org/th/wp-content/uploads/sites/104/2017/12/5-1024x680.jpg)
ระหว่างสงคราม ที่ดินของ Pao เป็นเขตสู้รบ ประชาชนไม่สามารถเข้ามาได้ และแน่นอนว่าตลอดสองข้างทางของถนน เคยเต็มไปด้วยทุ่นระเบิดอันตราย
![](https://blogs.icrc.org/th/wp-content/uploads/sites/104/2017/12/7-1024x680.jpg)
ตั้งแต่ปี 1979 เป็นต้นมา ประชาชนกว่า 64,000 เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด เมือง Battambang ทำสถิติสูงสุดที่ 15,000 คน ตามมาด้วยเมือง Rattanak Mondul 5,000 คน ตัวเลขที่น่าตกใจนี้ ทำให้กันพูชาเป็นประเทศที่มีผู้พิการมากที่สุดในโลก – ผู้พิการส่วนใหญ่คือประชาชน
![](https://blogs.icrc.org/th/wp-content/uploads/sites/104/2017/12/8-1024x680.jpg)
ทุกวันนี้ ผลจากอนุสัญญาลดอาวุธ ทำลายทุ่นระเบิด และการร่วมมือระหว่างรัฐบาลและองค์กรเอกชน ทำให้เมือง Rattanak Mondul กลับมาเป็นชุมชนปลอดอันตรายอีกครั้ง ‘ผมดีใจเหลือเกินที่ได้กลับมาอยู่บ้าน เพราะมีบ้านเราถึงทำอะไรได้หลายอย่าง สามารถทำการเกษตรหาเลี้ยงครอบครัว ตอนที่ไม่มีที่อยู่ผมรู้สึกไม่ต่างจากขอทาน’ Pao ทิ้งท้าย
![](https://blogs.icrc.org/th/wp-content/uploads/sites/104/2017/12/9-1024x680.jpg)
โลกมีการทำลายทุ่นระเบิดอันตรายไปกว่ากว่า 51 ล้านชิ้น 159 ประเทศที่ลงชื่อในสัญญาไม่มีระเบิดที่ว่าอยู่ในครอบครอง ส่วนจำนวนประเทศที่ผลิตทุ่นระเบิดก็ลดลงจากกว่า 50 เหลือเพียง 2 ประเทศเท่านั้น ปัจจุบันยังมีอีก 35 ประเทศที่ปฎิเสธเข้าร่วมอนุสัญญา….
![](https://blogs.icrc.org/th/wp-content/uploads/sites/104/2017/12/10-1024x673.jpg)
ความท้าทายใหญ่ต่อไปคือการทำให้ทุกพื้นที่ในโลกปลอดระเบิด และนำประชาชนกลับบ้านอย่างปลอดภัยได้อย่าง Pao และประชาชนในเมือง Rattanak Mondul ทุกคน
แปลจากบทความภาษาอังกฤษ Beating the odds and clearing landmines in Cambodia โดย: Nic Dunlop
You should also read these articles