เมียนมาร์:โครงการเงินทุนสนับสนุนช่วยสร้างชีวิตใหม่และโอกาสที่ดีกว่า

บทความ / บล็อค

เมียนมาร์:โครงการเงินทุนสนับสนุนช่วยสร้างชีวิตใหม่และโอกาสที่ดีกว่า

ดอว์ โจน เซ ที่ร้านของเธอภายในศูนย์พักพิงที่เมืองสี ทางตอนเหนือของรัฐฉาน

วันพุธเป็นวันตลาดนัดประจำสัปดาห์ของเมืองสี เมืองเล็กๆทางตอนเหนือของรัฐฉานที่มีประชากรประมาณ 6,000 คน มันเป็นวันที่วุ่นวายของดอว์ โจน เซ คุณแม่ลูก 3 วัย 45 ปีและคุณย่าของเด็กชายตัวเล็กๆ ที่ต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปตั้งแผงขายสินค้าที่เธอซื้อมาจากร้านขายส่งเมื่อวันก่อน
สัปดาห์นี้เธอมีลิ้นจี่ มะเขือเทศ ถั่ว พริก แตงกวา กะหล่ำปลี และ มันฝรั่งมาวางขายซึ่งผักเหล่านี้ส่งตรงมาจากลาชิโอผ่านเส้นทางถนนที่ขรุขระยากลำบาก
ดอว์ โจน เซ อาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงใกล้กับเมืองลาชิโอมาเป็นปีที่ 4 แล้ว เธอหลบหนีมาอยู่ที่นี่พร้อมกับครอบครัวอื่นๆอีก 7 ครอบครัวเนื่องจากการสู้รบใกล้กับหมู่บ้านของเธอเริ่มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นซึ่งหมู่บ้านของเธอนั้นยู่ห่างจากเมืองลาชิโอประมาณ 3 ชั่วโมงหากเดินทางด้วยรถยนต์ ก่อนหน้าที่จะมาอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้เธอก็เคยเป็นเจ้าของร้านชำเล็กๆและขายสินค้าเบ็ดเตล็ดมาก่อน
แม้ว่าจะมีเงินและพื้นที่ไม่มากนักแต่ด้วยความมุ่งมั่นทำให้ดอว์ โจน เซตัดสินใจใช้ทักษะด้านค้าขายและเพิงที่พักที่มีอยู่ทำเป็นร้านขายของ เธอเริ่มจากการขายไข่ไก่ บะหมี่ ผงซักฟอกและขนมขบเคี้ยวสำหรับเด็กซึ่งของเหล่านี้เป็นของที่คนในศูนย์ต้องการเป็นอย่างมาก

เด็กๆภายในศูนย์พักพิงที่เมืองสี ทางตอนเหนือของรัฐฉาน

เด็กๆภายในศูนย์พักพิงที่เมืองสี ทางตอนเหนือของรัฐฉาน

เมื่อปลายปีที่แล้วเธอได้เริ่มต้นวางแผนธุรกิจและเข้ารับการฝึกอบรมจากคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ICRC เธอได้รับเงินทุนประมาณ 3,850 บาท ในการต่อยอดธุรกิจเล็กๆของเธอซึ่งเงินทุนที่ได้มาช่วยให้เธอหาสินค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้นมาจำหน่ายและยังทำให้สต็อคสินค้าของเธอมีเพียงพอสำหรับลูกค้าอีกด้วย ปัจจุบันนอกจากจะดูแลร้านของตัวเองในศูนย์แล้ว เธอยังร่วมหุ้นกับผู้หญิงอีกสองคนในชุมชนเช่าแผงขายสินค้าในตลาดเมืองสีและขายของสดทุกสัปดาห์

ฉันพูดคะฉิ่นแต่ฉันก็เรียนภาษาจีนและฉานด้วยซึ่งมีประโยชน์กับฉันมาก” ดอว์ โจน เซเล่า “ก่อนหน้านี้ฉันไม่มีเงินพอจะเช่าแผงในตลาด ฉันก็เลยต้องขายสินค้าให้กับพวกพ่อค้าแม่ค้าริมถนนที่ต้องการซื้อไปขายต่อ แต่รายได้ก็ยังไม่เพียงพอ

ดอว์ โจน เซ เป็นหนึ่งใน 29 ผู้ได้รับทุนจาก ICRC ในศูนย์พักพิงที่ดูแลโดยกลุ่ม Kachin Baptist Church หลังจากที่หลบหนีภัยออกจากหมู่บ้านของตัวเองมานานถึง 4 ปีและรับเงินทุนไปเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ในที่สุดดอว์ โจน เซก็สามารถหารายได้มากพอที่จะเลี้ยงสมาชิกอีก 7 คนในครอบครัวได้ โดยที่ไม่ต้องยืมเงินเพื่อเอาไปใช้ซื้อเสื้อผ้า อาหาร จ่ายค่าเทอมและบริการสุขภาพ “ตอนนี้ฉันไม่ต้องมานั่งวิตกกับเรื่องรายได้อีกแล้ว

 

ดอว์ โจน เซ ลุกชายและสามี ขณะทำงานอยู่ที่แผงขายของในตลาดเมืองสี ทางตอนเหนือของรัฐฉาน

ดอว์ โจน เซ ลุกชายและสามี ขณะทำงานอยู่ที่แผงขายของในตลาดเมืองสี ทางตอนเหนือของรัฐฉาน

ICRC จัดตั้งโครงการ ”เงินทุนสนับสนุน” เมื่อเดือนมกราคม 2559 โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ที่จะเข้ารับทุนนั้นจะต้องมีสถานภาพค่อนข้างยากจน ซึ่งเงินจากโครงการนี้จะถูกนำไปใช้เพื่อส่งเสริมให้เกิดการสร้างงานขนาดเล็กที่นำรายได้มาจุนเจือครอบครัวของผู้รับทุน และโครงการนี้ยังส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจในพื้นที่ด้วยการสร้างงานและไม่แจกจ่ายอาหารและสินค้าอื่นๆให้กับผู้คนซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับเป็นการแทรกแซงตลาดภายใน

“โครงการเป็นนี้เป็นโครงการนำร่องในพื้นที่ตอนเหนือของรัฐฉาน ขณะที่คนส่วนใหญ่เลือกทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าสัตว์ปีก แต่ดอว์ โจน เซเป็นคนแรกที่ทำธุรกิจร้านชำเล็กๆ ที่ทำให้เธอสามารถหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวและการที่เธอร่วมหุ้นกับคนท้องถิ่นถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างชุมชนท้องถิ่นและคนที่อพยพเข้ามาใหม่ในพื้นที่” มาร์ติน ซัมทัน ผู้แทนของ ICRC ที่รับผิดชอบโครงการกล่าว

นับแต่ปี 2559 มีครอบครัวมากกว่า 860 ครอบครัว ที่ได้รับเงินทุนเพื่อเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ซึ่งทำให้ผู้คนมากกว่า 4,330 คนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในพื้นที่ไม่ทางตรงก็ทางอ้อมได้มีชีวิตที่ดีขึ้น

 

บ้านของผู้พักพิงภายในศูนย์ที่เมืองสี ทางตอนเหนือของรัฐฉาน

บ้านของผู้พักพิงภายในศูนย์ที่เมืองสี ทางตอนเหนือของรัฐฉาน

แบ่งปันบทความนี้