“ตอนแรกเลย มีความรู้สึกว่า ICRC จะมาตรวจสอบการทำงานของพวกเรา” ผู้กำกับท่านหนึ่งกล่าว “แต่ผมไม่กลัวที่จะตั้งคำถาม”
การสัมมนาในครั้งนี้จึงไม่เหมือนงานอื่นๆทั่วไปที่ผู้ฝึกอบรมแค่มาแบ่งปันความรู้กับวิทยากรและเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆเท่านั้น สัมมนาครั้งนี้ยังเป็นโอกาสที่เจ้าหน้าที่ และ ICRC สามารถทำความรู้จักซึ่งกันและกัน และเข้าใจถึงวิธี และขอบเขตการปฏิบัติงานของ ICRC
ยกตัวอย่างเช่น ระหว่างการสัมมนานั้นมีเจ้าหน้าที่เสนอให้ทาง ICRC มีการแบ่งปันข้อมูลที่ ICRC ได้บันทึกไว้จากการลงพื้นที่ให้ทางฝ่ายความมั่นคง แต่ ICRC ก็ต้องปฏิเสธการแบ่งปันข้อมูลในทุกรูปแบบ เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจจากทุกฝ่ายมีส่วนช่วยในการให้  ICRC เข้าถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกกลุ่ม นั้นก็คือหลักการทำงาน (Confidentiality) ของ ICRC ที่จะแบ่งปันข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น และจะไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะ ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม เนื้อหาการสนทนาในการฝึกอบรมก็เช่นกัน จะไม่มีการเปิดเผยสู่สาธารณะเมื่อผู้ฝึกอบรมเริ่มคุ้นเคยกับ ICRC การพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นก็เป็นไปด้วยดี อย่างที่ผู้กำกับท่านเดิมเปรียบเทียบกับการชกมวยว่า: “การ์ดที่ตั้งไว้ตอนแรกก็เริ่มลง”

“ผมเข้าใจในความรู้สึกของตำรวจ นั้นคือปฏิกิริยาธรรมชาติ ผมเคยเป็นคนในเครื่องแบบ” นายเจนเซ่นบอก นายเจนเซ่นมีประสบการณ์เป็นตำรวจในประเทศเดนมาร์กมากว่า 30 ปี โดย 15 ปีในบทบาทผู้กำกับในกรมตำรวจ เขายังเป็นครูฝึกสอนในวิทยาลัยตํารวจแห่งชาติ ประเทศเดนมาร์กด้วย และรับภารกิจรักษาสันติภาพในต่างประเทศ ก่อนที่จะมาร่วมงานกับ ICRC