ค่ายผู้ลี้ภัยอาจะเป็นโลกทั้งใบของหลายชีวิต เด็กรุ่นใหม่ใน Ein el-Hilweh ค่ายลี้ภัยในเลบานอนหันมาจับกล้องเพื่อสะท้อนเสียงของพวกเขาผ่านภาพถ่าย
แคนนอน ยุโรปจับมือกับคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ออกโปรเจกต์น่าสนใจ ชวนวัยรุ่น 5 คน ที่อยู่ในสถานะผู้ลี้ภัย มาร่วมกันถ่ายภาพเล่าเรื่องชีวิตประจำวน เนื่องในวันมนุษยธรรมโลกที่เพื่งผ่านไปในวันที่ 19 สิงหาคม ภาพถ่ายของพวกเขาชวนให้เราตั้งคำถามกับชีวิต ความคิด และประสบการณ์ความเป็นอยู่ของผู้คนมากมายที่ใช้ชีวิตอยู่ใต้หมอกควันของสงคราม
ฟาติมา เด็กสาววัย 19 ปี ใช้ทั้งชีวิตในค่ายผู้ลี้ภัย เธอเคยเข้าร่วมโปรเจกต์กับเราในปี 2018 และกลับมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวของเธออีกครั้งในปีนี้ ฟาติมากำลังสมัครเรียนออกแบบตกแต่งภายใน เธอรักการวาดภาพ และมักใช้เวลากับการถ่ายภาพอาคารในค่ายลี้ภัย ภาพของฟาติมาบอกให้รู้ว่าสถาปัตยกรรมมีผลต่อการใช้ชีวิตมากแค่ไหน กำแพงที่บดบังแสงอาทิตย์ และโครงสร้างที่เป็นอันตราย กลายเป็นเงือนไขในชีวิตที่น้อยคนนักจะนึกถึง
ในวัย 19 ปี ฮาลาเป็นผู้ลี้ภัยที่ได้ใช้ชีวิตอยู่นอกค่าย เธอยังคงแวะเวียนมาเยี่ยมเพื่อนและครอบครัวอยู่เป็นประจำ ฮาลาใช้เวลาว่างอาสาเป็นโค้ชฟุตบอลสำหรับเด็กๆ ภาพของเธอเป็นกระบอกเสียงแทนกลุ่มเด็กและผู้หญิงในค่ายลี้ภัย โดยเฉพาะกิจกรรมในสหภาพสตรีและเด็กชาวปาเลสไตน์
ยาห์ยา สถาปนิกวัย 26 ปี เกิดและเติบโตในค่ายก่อนได้รับทุนไปเรียนต่อด้านสถาปัตยกรรมที่ประเทศไซปรัส แม้จะมีโอกาสทางการศึกษา แต่ยาห์ยาก็ยังเจออุปสรรคในการประกอบอาชีพ สถานะผู้ลี้ภัย ทำให้เขาไม่สามารถเข้าร่วมสมาคมสถาปนิกเลบานอน ในภาพถ่ายของเขา บอกเล่าความจริงในค่าย ที่มักถูกบิดเบือนจากสื่อกระแสหลัก
แดเนียลเป็นนักศึกษาคณะบริหารธุระกิจในเวลาหลัก และเป็นครูสอนถ่ายภาพในเวลาว่าง เด็กหนุ่มวัย 22 ปี อาศัยอยู่ไม่ไกลจากค่ายและมักใช้เวลาสอนผู้ลี้ภัยให้รู้จักบันทึกเรื่องราวด้วยภาพถ่าย งานของเขา บอกให้เรารู้ว่ายังมีอีกหลายชีวิตที่ถูกลืมและไม่ได้รับการพูดถึง และรื่องราวของแต่ละคน ต่างมีที่มาและความน่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน
ด้วยอายุเพียง 21 ปี อาเหม็ดยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากทำ แต่ด้วยโอกาสทางอาชีพที่มีอยู่อย่างจำกัดและค่าจ้างที่น้อยนิดเมื่อเทียบกับปริมาณงาน ทำให้เขาคิดอยู่บ่อยครั้งว่าตัวเองไม่เป็นที่ต้อนรับในสังคมนอกกำแพง อาเหม็ดถ่ายทอดความรู้สึกแปลกแยกเมื่ออยู่นอกค่ายผ่านภาพถ่ายและสีหน้าของผู้คนมากมายในค่ายผู้ลี้ภัย
แปลและเรียบเรียงจากบทความต้นฉบับ Lebanon’s young refugees tell their stories through the lens