Lost on the road: ชีวิตที่หายไปของผู้อพยพในทวีปอเมริกา 19/12/2017, กลุ่มองค์กรกาชาด / บทความ / เรื่องเล่าจากภาคสนาม 500,000 คือจำนานผู้อพยพที่เดินทางจากประเทศต่างๆ มายังแม็กซิโกเพื่อชีวิตที่ดีกว่า แต่ไม่มีใครรู้ว่า ท่ามกลางผู้คนมากมาย มีใครบ้างที่ไปถึงหรือไม่ถึงจุดหมายที่ตั้งใจ… เพื่อติดตามสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง Kathryn Cook-Pellegrin ช่างภาพของ ICRC เริ่มโปรเจคพิเศษที่จะนำเรื่องราวจากท้องถนน มาให้คนทางบ้านได้อย่างเราๆ ได้เข้าใจ ทุกวันนี้มีบุคคลพลัดถิ่นจากเหตุความไม่สงบในพิ้นที่ต่างๆ มากมาย จำนวนที่น่าตกใจในปัจจุบันสูงกว่าหลายครั้งที่ผ่านมานับแตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่น้อยคนจะทราบว่า เกิดอะไรขึ้นกับผู้คนมากมายที่ออกเดินทางไป แต่ไม่เคยได้กลับมา การพาครอบครัวที่พลัดพรากให้กลับมาเจอกันเป็นหัวใจสำคัญของงานด้านมนุษยธรรม เช่นเดียวกับความช่วยเหลือเรื่องน้ำ อาหาร และที่อยู่อาศัย หนึ่งในช่องทางที่จะนำทางสมาชิกในครอบครัวให้มาเจอกัน คือการบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขาให้โลกได้รับรู้ Missing Migrants โปรเจคของพวกเรา บอกเล่าเรื่องราวในประเทศฮอนดูรัสและกัวเตมาลา ทั้งสองประเทศมีจำนวนผู้อพยพไปแมกซิโกสูงถึงปีละ 500,000 คน (ตามรายงานของ UN) ตัวเลขนี้ยังไม่รวมจำนวนผู้อพยพที่สูญหายไประหว่างการเดินทาง จากจุดเริ่มต้น เราพูดคุยกับครอบครัวของผู้สูญหาย ความรู้สึกและความกังวลของสมาชิกที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดยไม่มีทางรู้ได้เลยว่าชะตากรรมของคนที่เขารักเป็นอย่างไร เราขอให้เขาเล่าถึงวิธีที่ใช้เพื่อสืบหาข่าวคราวของญาติ และบันทึกภาพของผู้สูญหายจากภาพถ่ายเก่า เราลองเดินทางไปยังประเทศแม็กซิโกตามเส้นทางที่ผู้อพยพส่วนใหญ่ใช้กัน ระหว่างนั้น เราได้ฟังเรื่องราวที่ต่างกันไปจากผู้อพยพมากมายและขอบันทึกภาพถ่ายของพวกเขาไว้ ด้วยกล้องถ่ายภาพโพลาลอย ยิ่งเราเดินทางลึกเข้าไปในภาคเหนือ เรื่องราวของผู้อพยพก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น การเดินทางที่ยาวนานนำมาซึ่งความยากลำบากมากมายเกินจะคาดเดา หลายคนชะลอการเดินทาง หรือตัดสินใจกลับบ้านเมื่อพบว่าหนทางที่เดินไป ไม่ได้ง่ายเหมือนที่คิด นั่นเป็นเหตุผลที่เราเลือกระบุเวลาเดินทางของแต่ละคนลงบนภาพถ่ายแต่ละใบ การเดินทางเข้าประเทศแมกซิโกจากทางใต้ เป็นเรื่องท้าทายและอันตรายมาก เส้นทางสายนี้ทำให้เราเข้าใจถึงความจำเป็นของผู้อพยพ ที่ยอมเอาชีวิตของตัวเอง และครอบครัวที่รออยู่ข้างหลังมาเสี่ยงบนถนนที่ไม่รู้ว่าจะพาไปถึงจุดหมายหรือไม่ เพราะการเดินทางของแต่ละคนอาจยาวนานเป็นเดือนหรือมากกว่า ยิ่งถ้าผู้อพยพเป็นผู้หญิงหรือเดินทางมาพร้อมเด็กเล็ก สำหรับเรา เรื่องเหล่านี้ไม่ควรถูกมองข้าม แต่ละเรื่องราวอาจมีที่มาต่างกัน แต่การหายไปของใครสักคน ไม่ว่าจะประเทศไหนภูมิภาคใด ต่างทิ้งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ไว้ข้างหลังไม่ต่างกัน อ่านเรื่องราวของพวกเขาจากเรางานพิเศษของเราได้ที่: http://www.missingmigrants.icrc.org/ Text by Kathryn Cook-Pellegrin Photography © Kathryn Cook-Pellegrin Share this article You should also read these articles ซูดานใต้: เด็กน้อยที่ถูกลักพาตัวได้กลับคืนสู่ครอบครัวอีกครั้ง 12/01/2018, กลุ่มองค์กรกาชาด / บทความ / เรื่องเล่าจากภาคสนาม อิมมานูเอล (4 ขวบ) โมนิกา (6 ขวบ) และ วิกเตอร์ (12 ขวบ) เด็กทั้งสามถูกลักพาตัวไปจากหมูบ้านเล็กๆ ในประเทศซูดานใต้เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2016 ... ผู้บาดเจ็บจากการโจมตีพุ่งขึ้นกว่า 4,000 รายภายใน 9 วัน ชาวอัฟกานิสถานเผชิญภัยคุกคามหนักจากการสู้รบยืดเยื้อที่ยังไม่เห็นทางออก 11/08/2021, กลุ่มองค์กรกาชาด / บทความ / เรื่องเล่าจากภาคสนาม 4,042 คือจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตี เฉพาะที่เข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลที่ ICRC ให้การสนับสนุน ในเวลาเพียง 9 วันที่ผ่านมา “เราเห็นบ้านถูกทำลาย บุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ผู้ป่วยมากมายตกอยู่ในอันตราย แม้แต่ระบบน้ำและไฟฟ้าก็ถูกทำลายเสียหายอย่างรุนแรง” อีลอย ฟิเลียน (Eloi Fillion) ...
ซูดานใต้: เด็กน้อยที่ถูกลักพาตัวได้กลับคืนสู่ครอบครัวอีกครั้ง 12/01/2018, กลุ่มองค์กรกาชาด / บทความ / เรื่องเล่าจากภาคสนาม อิมมานูเอล (4 ขวบ) โมนิกา (6 ขวบ) และ วิกเตอร์ (12 ขวบ) เด็กทั้งสามถูกลักพาตัวไปจากหมูบ้านเล็กๆ ในประเทศซูดานใต้เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2016 ...
ผู้บาดเจ็บจากการโจมตีพุ่งขึ้นกว่า 4,000 รายภายใน 9 วัน ชาวอัฟกานิสถานเผชิญภัยคุกคามหนักจากการสู้รบยืดเยื้อที่ยังไม่เห็นทางออก 11/08/2021, กลุ่มองค์กรกาชาด / บทความ / เรื่องเล่าจากภาคสนาม 4,042 คือจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตี เฉพาะที่เข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลที่ ICRC ให้การสนับสนุน ในเวลาเพียง 9 วันที่ผ่านมา “เราเห็นบ้านถูกทำลาย บุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ผู้ป่วยมากมายตกอยู่ในอันตราย แม้แต่ระบบน้ำและไฟฟ้าก็ถูกทำลายเสียหายอย่างรุนแรง” อีลอย ฟิเลียน (Eloi Fillion) ...