ตำบล Rattanak Mondul เมือง Battambang ประเทศกัมพูชา – เรารู้จัก Tith Pao ครั้งแรกในปี 1992 ตอนนั้นกัมพูชาขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีทุ่นระเบิดมากที่สุดในโลก รองจากอัฟกานิสถานและแองโกล่า 25 ปีให้หลัง เรากลับมาเยี่ยม Pao อีกครั้งเพื่อเห็นภาพที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้กัมพูชาแทบปราศจากทุ่นระเบิดและ Tith Pao ก็ดูต่างจากเดิมอย่างลิบลับ
ต้นศตวรรษที่ 1990 กัมพูชามีทุ่นระเบิดสังหารประมาณ 8-10 ล้านลูก จำนวนที่ว่ามากกว่าจำนวนประชากรรวมกันทั้งประเทศ และแม้จะให้ทุกคน ทั้งผู้ชาย เด็ก และผู้หญิงมาช่วยกันเหยียบระเบิดคนละลูก ก็ยังไม่แน่ว่าสามารถกำจัดระเบิดเหลานี้ออกจากพื้นที่ประเทศได้หมด ทุ่นระเบิดมากมายเป็นมรดกจากการสู้รบอันยาวนานของกลุ่มเขมรแดง กลุ่มต่อต้านคอมมิวนิสต์ กลุ่มทหารเวียดนาม รวมไปถึงกองทัพสหรัฐฯ กลายเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงต่อการเดินทางกลับถิ่นฐานเดิมของผู้ลี้ภัยและพลัดถิ่นในระหว่างสงคราม ทั้งยังกีดขวางโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจและการบูรณะประเทศ ICRC ในฐานะที่เป็นองค์กรมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการเก็บกู้ระเบิดเพื่อเปลี่ยนพื้นที่สงครามให้สามารถกลับมาทำการเกษตรและอยู่อาศัยได้อีกครั้ง จึงร่วมมือกับองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) 6 แห่ง ภายใต้ชื่อ The International Campaign to Ban Landmines (ICBL) โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ มุ่งกำจัดทุ่นระเบิดสังหารทั่วโลกให้ได้ภายในปี 2025 ปัจจุบัน ICBL มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์มากกว่า 1,300 องค์กร ทำงานอยู่ใน 100 ประเทศทั่วโลก เพื่อผลักดันให้รัฐบาลแต่ละประเทศร่วมมือร่วมใจปฎิบัติตามอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการปรับลดอาวุธอย่างเต็มรูปแบบและกำหนดให้มีการทำลายและเลิกการผลิตทุ่นระเบิด จนถึงตอนนี้อนุสัญญาออตตาวามีผู้ร่วมลงนามถึง 163 ประเทศ จาก 195 ประเทศทั่วโลก สำหรับกัมพูชา องค์กรด้านมนุษยธรรมอย่าง HALO Trust, Mines Advisory Group ฯลฯ ได้เข้ามาปฎิบัติหน้าที่เพื่อเก็บกู้ระเบิดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20 ปี กำจัดทุ่นระเบิดสังหารในพื้นที่สงครามไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็น ชาวกัมพูชาหลายครอบครัว สามารถกลับบ้านและเริ่มการเพราะปลูกในพื้นที่สงครามได้อย่างปลอดภัย “มองย้อนกลับไปในอดีต สิ่งที่ผมจำได้มีแต่ความกลัว แต่ตอนนี้ชีวิตของผมเป็นเหมือนต้นไม้ที่เริ่มผลิดอกออกผลอีกครั้ง” Pao กล่าว ในปี 1992 Pao เป็นหนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายจำนวน 1,573 คนที่ต้องเสียอวัยวะหรือชีวิตจากระเบิดสังหาร ในปีที่ผ่านมา เหยื่อระเบิดเหลือเพียง 42 ราย เท่านั้น ชิวิตของ Pao ไม่ง่าย หลังเสียเท้าไปได้เพียงเดือนเดียว เขาจำใจต้องกลับไปหาไม้ในพื้นที่เสี่ยงภัยอีกครั้ง ‘ผมรู้สึกกลัวที่ต้องกลับไปในป่า แต่มันเป็นทางเลือกเดียวสำหรับการเลี้ยงปากท้อง’ เช่นเดียวกับชาวกัมพูชากว่า 12,000 ชีวิตที่เสียบ้านจากสงคราม ครอบครัวของ Pao ต้องอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่แสนแออัด การหาไม้ไปขาย เป็นรายได้ทางเดียวของครอบครัว
แปลจากบทความภาษาอังกฤษ Beating the odds and clearing landmines in Cambodia โดย: Nic Dunlop