“คนดีต้องรู้จักเคารพผู้อื่น มีจิตใจดี และมีมนุษยธรรม” คำนิยามง่ายๆของอาจารย์อัจฉรา เพิ่มพูล ครูชำนาญการจากโรงเรียนสายปัญญาที่สะท้อนให้เห็นว่า ถ้าเราปลูกฝังเยาวชนคนรุ่นใหม่ในเรื่องการทำความดี การเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของตัวเองและผู้อื่น การเอื้อเฟื้อแบ่งปัน ตั้งแต่อายุยังน้อย เราก็จะได้คนดีมาอยู่ในสังคมของเรามากขึ้นในอนาคต และด้วยแนวคิดนี้เองจึงนำมาซึ่งการร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงสามฝ่ายระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) และสภากาชาดไทย ให้มีการบรรจุการเรียนรู้เรื่องกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศไว้ในหลักสูตรกิจกรรมยุวกาชาดระดับมัธยมศึกษาตอนต้นระดับชั้นปีที่ 1-3 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2556 จนกระทั่งถึงปัจจุบันได้มีครูจำนวนไม่น้อยภายใต้สังกัดของกระทรวงศึกษาธิการที่ได้รับการอบรมในการสอนหลักสูตรนี้ไปแล้ว และเพื่อให้หลักสูตรมีความทันสมัยเข้ากับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียนจึงได้จัดการประชุมเพื่อทบทวนหลักสูตรการเรียนการสอนในประเทศไทยโดยมีบุคลากรจากกระทรวงศึกษาธิการที่เกี่ยวข้องและผู้แทนของ ICRC เข้าร่วมด้วย

ครูจากโรงเรียนต่างๆทั่วประเทศ 33 คนเข้าร่วมการประชุมพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการจำนวน 15 คนและผู้แทนจาก ICRC

หลักสูตรดังกล่าวมีชื่อว่า “กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศเพื่อเยาวชน” (Exploring Humanitarian Law หรือ EHL) ซึ่งเป็นการนำเอากฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ หรือ (International Humanitarian Law หรือ IHL) มาปรับเพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มเยาวชน ดังที่อาจารย์กิตติคุณ ชมสรรเสริญ อาจารย์ประจำโรงเรียนสตรีวัดระฆัง กล่าวว่า “การจะสอนกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอาจหนักไปสำหรับเด็กเพราะเนื้อหาพูดถึงสงคราม การสู้รบ เราจึงปรับเป็น EHL เน้นเหตุการณ์ที่เด็กต้องเจอบ่อยๆ เช่น ความขัดแย้งในครอบครัว การตัดสินใจ การทะเลาะเบาะแว้ง หรือสถานการณ์ที่คนอื่นถูกริดรอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งเด็กสามารถเข้าใจได้” 

ครูผู้สอนหลักสูตร EHL ในโรงเรียนต่างๆทั่วประเทศ 33 คนเข้าร่วมการประชุมเพื่อทบทวนและปรับปรุงคู่มือการเรียนการสอนเพื่อต้อนรับเทอมการศึกษาใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2017

สิ่งที่ครูผู้สอนหลักสูตร EHL พยายามทำอยู่ในปัจจุบันคือ การปรับหลักสูตรให้ง่ายต่อการเข้าใจ เช่น เสริมด้วยกิจกรรม รูปแบบการสอนที่เข้าใจง่าย สนุกสนาน และบทอ่านที่น่าสนใจ ที่สำคัญครูจะต้องเป็นผู้นำให้เด็กรู้จักคิดและพัฒนาตัวเอง “เด็กบางคนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องช่วยคนอื่น ทำไมต้องเข้าใจมนุษยธรรม ทำไมเราไม่ควรเหยียดหยามคนอื่น แต่พอได้เรียนรู้เรื่องของอังรี ดูนังต์ เรื่องของมนุษยธรรม ทำไมจึงเกิดความขัดแย้ง เด็กๆมองโลกเปลี่ยนไป เด็กอยากทำงานในองค์กรที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างให้สังคมดีขึ้นในโลกใบนี้” อาจารย์กิตติคุณเสริม

อย่างไรก็ตามการเรียนการสอนหลักสูตร EHL ยังมีปัญหาอุปสรรคเนื่องจากบุคลากรที่สอนไม่เข้าใจแนวทางในการสอนประกอบกับไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางโรงเรียนมากนัก จึงทำให้หลักสูตร EHL ถูกมองว่าเป็นเพียงไม้ประดับ ทั้งที่แท้จริงแล้วหลักสูตรนี้เป็นการปลูกฝังให้เด็กรู้จักเคารพผู้อื่นและตระหนักถึงความเท่าเทียมกันของมนุษย์ “มันอยู่ที่ว่าครูจะสอนเด็กอย่างไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปลูกฝังให้เด็กเกิดความตระหนักรู้ แต่ละปีจะมีการอบรมครู 2 ครั้งแต่มีน้อยมากที่จะเข้าใจเนื้อหาหลัก ถ้าครูเอาสนธิสัญญา เอากฎหมายไปให้เด็กท่อง พวกเขาก็เบื่อ แต่ถ้าครูสอนให้คิด ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ อะไรคือกติกาของสังคม เด็กก็จะเข้าใจ” อาจารย์กิตติคุณกล่าว

คุณซุกเดฟ ซิงห์ ผู้แทนของ ICRC บรรยายให้ผู้เข้าร่วมการประชุมฟังถึงหลักสูตร EHL ที่ ICRC ให้การสนับสนุน

“ครูหลายคนมองว่าสงครามเป็นเรื่องไกลตัว บ้านเราไม่มีทหารเด็ก แต่หลักสูตรนี้ไม่ได้มีแค่นั้น มันมีมากกว่านั้นและเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สุด เพราะเราอยากให้เด็กเป็นคนดี ปรัชญาของการศึกษาคือ ดี เก่ง และมีความสุข และนี่คือสิ่งที่เป็นเสมือนบันไดขั้นแรก สังคมเราจะสงบสุขได้ถ้าทุกคนเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าเรารักตัวเอง รักศักดิ์ศรี เราก็ต้องทำแบบนั้นกับคนอื่นเช่นกัน” อาจารย์อัจฉรากล่าว

ผู้เข้าร่วมการประชุมถ่ายภาพร่วมกันโดยมีคุณศัจธร วัฒนะมงคล ผู้อำนวยการสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียนเป็นประธานเปิดงาน

และนั่นทำให้กระทรวงศึกษาธิการกำลังพิจารณาเสริมสร้างองค์ความรู้ในเรื่องหลักสูตรและเป็นที่มาของการจัดประชุมในครั้งนี้ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากครูผู้สอนที่มองว่ากระทรวงศึกษาธิการควรให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

คุณเอกราช รักวนัสหัวหน้าแผนกกาชาดสัมพันธ์คุณเมอลินดา เสาวลักษณ์ ผู้แทนของ ICRC พูดคุยเกี่ยวกับงานของ ICRC กับคุณศัจธร วัฒนะมงคล ผู้อำนวยการสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาด และกิจการนักเรียน

“โลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก กระบวนการสอนเด็กต้องมีการต่อยอด ผู้สอนต้องได้รับการสนับสนุนให้แก้ปัญหาของพวกเขา เราจะจัดให้มีการประชุมเพื่อพัฒนากระบวนการเช่นนี้บ่อยๆ ต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล จะทำให้เราได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ในการพัฒนาด้วย” คุณศัจธร วัฒนะมงคล ผู้อำนวยการสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียนกล่าวปิดท้าย