
เกี่ยวกับคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ
คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ไอซีอาร์ซี (International Committee of the Red Cross – ICRC) เป็นองค์กรที่ไม่เลือกปฏิบัติ มีความเป็นกลาง และเป็นอิสระ มีภารกิจหลักด้านมนุษยธรรมในการคุ้มครองชีวิตและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รวมถึงให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการขัดกันทางอาวุธและสถานการณ์รุนแรงอื่น[1] อีกทั้งยังมุ่งมั่นป้องกันความทุกข์ทรมานด้วยการส่งเสริมและเสริมสร้างกฎหมายมนุษยธรรมและหลักการมนุษยธรรมสากล ไอซีอาร์ซีก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1863 และมีบทบาทในการริเริ่มจัดทำอนุสัญญาเจนีวาและการก่อตั้งกลุ่มองค์กรกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นองค์กรหลักในการกำกับและประสานงานกิจกรรมระหว่างประเทศของกลุ่มองค์กรกาชาดฯ ในพื้นที่การขัดกันทางอาวุธและสถานการณ์รุนแรงอื่นทั่วโลก
การทำงานของไอซีอาร์ซีตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งระบุไว้ในอนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 และพิธีสารเพิ่มเติม ธรรมนูญของกลุ่มองค์กรกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ และข้อมติของการประชุมกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ
ไอซีอาร์ซีเป็นผู้ริเริ่มดำเนินการให้รัฐต่าง ๆ รับรองอนุสัญญาเจนีวาฉบับแรกในปี 1864 และนับแต่นั้นมา ด้วยการสนับสนุนจากกลุ่มองค์กรกาชาดฯ เราได้เรียกร้องให้รัฐบาลปรับปรุงกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของวิธีการและเครื่องมือในการสงครามสมัยใหม่ เพื่อให้การคุ้มครองและความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยจากความขัดแย้งมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน รัฐทุกรัฐผูกพันตามอนุสัญญาเจนีวาทั้งสี่ฉบับแห่งปี 1949 ซึ่งให้ความคุ้มครองในสถานการณ์การขัดกันทางอาวุธแก่ทหารที่บาดเจ็บ ป่วยไข้ และประสบเหตุเรืออับปาง เชลยศึก และพลเรือน ปัจจุบัน มีรัฐจำนวนมากกว่าสามในสี่ที่เป็นภาคีของพิธีสารเพิ่มเติมสองฉบับของอนุสัญญาเจนีวา โดยพิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 1 ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการขัดกันทางอาวุธระหว่างประเทศ และพิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 2 ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการขัดกันทางอาวุธที่ไม่มีลักษณะระหว่างประเทศ ซึ่งสนธิสัญญาเหล่านี้เป็นประมวลกฎหมายที่กำหนดความคุ้มครองแก่พลเรือนจากผลกระทบของการสู้รบ พิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 3 ค.ศ. 2005 อนุญาตให้สภากาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงแห่งชาติในกลุ่มองค์กรกาชาดฯ ใช้สัญลักษณ์คริสตัลสีแดงเพิ่มเติมได้
คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ สำนักงานภูมิภาคกรุงเทพฯ
คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ไอซีอาร์ซี) ดำเนินงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานานกว่า 50 ปี โดยจัดตั้งสำนักงานประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งแรกขึ้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อ พ.ศ. 2516 ต่อมาใน พ.ศ. 2518 จึงได้จัดตั้งสำนักงานขึ้นที่กรุงเทพฯ เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสงครามอินโดจีน จากนั้น ในระหว่าง พ.ศ. 2536 ถึง 2543 สำนักงานที่กรุงเทพฯ ได้ขยายขอบเขตภารกิจเพื่อตอบสนองความต้องการด้านมนุษยธรรมในประเทศกัมพูชา ลาว และเวียดนาม โดยดำเนินการภายใต้ความร่วมมือกับสภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงของแต่ละประเทศ ใน พ.ศ. 2567 สำนักงานภูมิภาคกรุงเทพฯ ได้รับโอนการดำเนินงานในประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน ซึ่งเคยอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานภูมิภาคที่กรุงกัวลาลัมเปอร์เข้ามาด้วย ตลอดกว่าห้าทศวรรษที่ผ่านมา ไอซีอาร์ซีมุ่งมั่นทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในภูมิภาค พร้อมปรับตัวตามความต้องการด้านมนุษยธรรมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยยังคงทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม รวมถึงหน่วยงานพันธมิตรในกลุ่มองค์กรกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ รวมทั้งกฎหมายและมาตรฐานระหว่างประเทศอื่น ๆ ที่บังคับใช้ในแต่ละบริบท ตลอดจนแก้ไขปัญหาด้านมนุษยธรรมต่าง ๆ ปัจจุบัน สำนักงานภูมิภาคกรุงเทพฯ ของไอซีอาร์ซียังได้พัฒนาเป็นศูนย์กลางที่ดำเนินงานครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อแบ่งปันความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการป้องกันวิกฤตมนุษยธรรมและการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งและสถานการณ์รุนแรง
แนวปฏิบัติสำหรับชุมชน: ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มองค์กรกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศมุ่งมั่นที่จะเปิดกว้างต่อสาธารณะและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์และให้เกียรติซึ่งกันและกันในทุกช่องทางดิจิทัลของเรา เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และการเรียนรู้ร่วมกันให้ได้มากที่สุด เรายินดีต้อนรับมุมมองที่หลากหลายและขอความร่วมมือจากผู้ใช้งานทุกท่านในการแสดงความคิดเห็นอย่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน อ่านเพิ่มเติม: https://www.icrc.org/en/community-guidelines
[1] สถานการณ์รุนแรงอื่น หมายถึง สถานการณ์ที่มีการกระทำความรุนแรงต่อผู้คนจำนวนมาก แต่ยังไม่เข้าข่ายที่จะถือเป็นการขัดกันทางอาวุธ โดยไอซีอาร์ซีจะดำเนินงานด้านมนุษยธรรมในกรณีที่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ในกรณีของการขัดกันทางอาวุธนั้น ไอซีอาร์ซีปฏิบัติภารกิจตามเงื่อนไขพันธกิจที่ได้รับมอบหมายภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ แต่ในสถานการณ์รุนแรงอื่น ไอซีอาร์ซีปฏิบัติภารกิจโดยยึดตามสิทธิในการริเริ่มการดำเนินงานด้านมนุษยธรรมตามธรรมนูญของกลุ่มองค์กรกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศกำหนดไว้ ทั้งนี้ การเข้าไปปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ของไอซีอาร์ซีจะขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์หลายประการด้วยกัน