“การหยุดยิงทั่วประเทศควรเกิดขึ้นเพื่อระดมทรัพยกรทั้งหมดเข้าต่อสู้กับไวรัสโคโรน่า” UN (องค์การสหประชาชาติ – United Nations) และ ICRC (คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ – International Committee of the Red Cross) กล่าวร่วมกันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (24 มีนาคม 2020) “ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันปกป้องประชาชนจากไวรัสที่กำลังแพร่ระบาด”

“ผู้ต้องขังและผู้พลัดถิ่นนับล้านคน โดยเฉพาะประชาชนในเขตตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดการปะทะรุนแรงที่สุดจากสงครามยาวนาน 9 ปี ล้วนเป็นกลุ่มเปราะบางต่อการแพร่ระบาดของไวรัส” สองหน่วยงานกล่าว 

ชาวซีเรียนั้น “เป็นกลุ่มเปราะบางอย่างมากต่อโรคโควิด-19” นายกายเออร์ พีเดอร์เซน (Geir Pedersen) ผู้แทนพิเศษขององค์การสหประชาชาติประจำซีเรีย กล่าวในแถลงการณ์ เขายื่นอุทธรณ์ต่อหลักการมนุษยธรรมโดยเสนอให้มีการ “ปล่อยตัวผู้ต้องขังและผู้ถูกลักพาตัวจำนวนมาก”

นายฟาบริซิโอ คาร์บอนี (Fabrizio Carboni) ผู้อำนวยการ ICRC ประจำภูมิภาคตะวันออกใกล้และตะวันออกกลาง สะท้อนข้อเสนอใหญ่ให้เกิดการหยุดยิงทั่วประเทศ

“เราไม่สามารถสู้สองสงครามพร้อมกันได้” คาร์บอนี ให้สัมภาษณ์ “ในสถานการณ์ที่มีผู้คนอพยพ และผู้พลัดถิ่นเพิ่มขึ้นตลอดเวลา เราไม่สามารถสละเวลาทั้งหมดเพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดในขณะที่ต้องเตรียมพร้อมตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินรายวัน”

คาร์บอนี เผยว่า ICRC ยื่นขอให้รัฐบาลซีเรียยอมอนุญาตให้หน่วยงานของเขาสามารถเข้าช่วยเหลือในมาตรการป้องกันโควิด-19 และจัดหาอุปกรณ์ด้านสุขอนามัยให้เรือนจำกลางจำนวน 9 แห่ง

“เราหวังว่ารัฐบาลจะตอบรับความช่วยเหลือนี้โดยเร็วที่สุด” เขากล่าว “เราเชื่อว่าผู้ต้องขังและผู้พลัดถิ่นมีความเสี่ยงสูงสุดต่อโควิด-19 พวกเขาเผชิญสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงมากกว่าประชากรทั่วไป”

ICRC ในฐานะที่เป็นองค์กรด้านมนุษยธรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นองค์กรเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมเรือนจำในซีเรีย ซึ่งคาดว่ามีผู้ต้องขังทั้งสิ้นราว 1 แสน 3 หมื่นคน 

รัฐบาลอัสซาดของซีเรียเพิ่งประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรกในประเทศ “ระบบบริการด้านสาธารณสุขของเราถูกทำลายหรืออยู่ในสภาพไม่พร้อมต่อการใช้งาน เราขาดแคลนทั้งยารักษา อุปกรณ์และบุคลากรทางการแพทย์” ประธานาธิบดีซีเรียกล่าว

ICRC มีความเห็นว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อในซีเรียจะยังไม่มาก แต่ก็เป็นโอกาสอันดีที่จะรีบออกมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด รวมไปถึง การจัดหาน้ำสะอาดให้ประชาชน 

“แม้จะมีผู้ติดเชื้อเพียง 5 หรือ 10 เคส แต่หน้าที่ของเราคือทำให้มั่นใจว่าน้ำสะอาดสามารถส่งถึงผู้คนได้อย่างทั่วถึง เพราะหากไม่มีน้ำ คุณก็ไม่สามารถล้างมือได้” ผู้แทน ICRC กล่าว

ในอัลฮะซะกะห์ เมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย ปั๊มน้ำสำหรับส่งน้ำสะอาดให้ประชากรกว่า 8 แสน คน ไม่สามารถใช้งานได้มานานถึงสามวัน “มันต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน” คาร์บอนีกล่าวทิ้งท้าย 

Reference  แปลและเรียบเรียงจากบทความ Syrian ceasefire critical to combating coronavirus – U.N., Red Cross