‘ใบอนุญาตผ่านทาง บัตรประจำตัว เงินสด’

เธอย้ำซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอะไรที่ตกหล่น เธอคงให้อภัยตัวเองไม่ได้หากมีอะไรขาดหายไป

‘ข่าวจากครอบครัว เรื่องราวของเพื่อนบ้าน’

อย่าลืมบอกเขาว่าเธอคิดถึงเขามากแค่ไหน เพราะถ้าพลาดไป หมายถึงเธอต้องรอไปอีกร่วมหนึ่งเดือน

‘เสื้อผ้าชุดเก่า หนังสือที่เขาเคยอ่าน ภาพถ่ายที่เริ่มเลือนลาง และจดหมายที่มีลายมือของเขา’

เธอมองอีกครั้งก่อนออกเดินทาง เพียงเดือนละหนึ่งครั้ง เธอจะตื่นก่อนรุ่งสางเพื่อเดินทางไปเยี่ยมลูกชายที่ถูกคุมขังอยู่ในอิสราเอล ทั้งคู่มีเวลาคุยกันเพียง 45 นาที แต่เป็น 45 นาทีที่มีค่ามากกว่าสิ่งใด

ทุกปี มีสมาชิกครอบครัวกว่า 100,000 คน เดินทางจากเวสต์แบงก์, กาซ่า และเยรูซาเล็มตะวันออก ไปยังอิสราเอลเพื่อพบหน้าบุคคลอันเป็นที่รัก การพาครอบครัวที่พลัดพรากให้ได้กลับมาเจอกัน เป็นใจความสำคัญของงานมนุษยธรรมในทุกพื้นที่

รถของกาชาดออกเดินทางตั้งแต่ก่อนฟ้าสาง การเดินทางใช้เวลายาวนานร่วม 12 ชั่วโมง

ญาติของผู้ต้องขัง มาร่วมตัวกันที่จุดตรวจ ชาวปาเลนไตน์ต้องได้รับอนุญาตก่อนเข้าเขตแดนอิสราเอล และในบางวันการข้ามเขตแดนอาจต้องใช้เวลาร่วมหลายชั่วโมง

ครอบครัวของผู้ต้องขังเดินทางออจากรอมัลลอฮ์ เมืองทางตอนเหนือของเยรูซาเล็ม

‘ฉันพาลูกสาวคนใหม่ของเรามาด้วย ตอนเห็นหน้าเธอครั้งแรกเขาถึงกับน้ำตาไหล นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขาร้องไห้’

‘ฉันเก็บเสื่อผ้าของเขา จดหมายทุกฉบับ แม้แต่ผ้าห่มเก่าๆ ที่เขาเคยใช้’

ญาติของผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์ในอิสราเอลกำลังรอเพื่อข้ามเขตแดน

‘ในชีวิตฉัน เขาสำคัญที่สุด ฉันไม่อาจพลาดทุกโอกาสที่จะได้เห็นหน้าเขา แม้เพียง 45 นาที หรือเพียง 5 นาทีก็ตาม’

ครอบครัวของผู้ต้องขังอยู่บนรถบัสที่กำลังเดินทางไปเรือนจำ

จดหมายที่ผู้ต้องขังส่งให้คุณแม่

‘เมื่อคืนนี้ฉันแทบนอนไม่หลับ ฉันตื่นเต้นและกังวล กลัวว่าจะลืมนู่นลืมนี่ กลัวกระทั่งว่าอาจจะพลาดรถบัส’

‘เวลาที่ได้เห็นหน้าลูก ฉันคิดเสมอว่านี่อาจเป็นครั้งสุดท้าย’ รถพยาบาลถูกเตรียมมา สำหรับสมาชิกครอบครัวของผู้ต้องขังที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

การเดินทางไกลเป็นเรื่องลำบากสำหรับผู้พิการ พวกเขายินดีที่จะฝ่าพันอุปสรรคเพื่อพบหน้าบุคคลผู้เป็นที่รัก

‘ฉันรอวันนี้มาตลอดและรู้สึกว่างเปล่าทุกครั้งหลังสายโทรศัพท์ถูกตัดหลังหมดเวลาเยี่ยม ฉันได้แต่มอง เคาะกระจก ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกตรงหน้าออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไร’

หญิงสาวในภาพนำรูปครอบครัวไปเยี่ยมสามีที่อยู่ในเรือนจำ

‘เมื่อตาฉันเริ่มพร่ามัว ฉันไม่ได้บอกลูกชายเพราะไม่อยากให้เขากังวลใจ ฉันแกล้งทำไปว่ายังสามารถเห็นหน้าเขาได้ชัดเจนเหมือนที่ผ่านมา’

รถออกจากฮีบรอน เมืองทางตอนเหนือของอิสราเอลก่อนรุ่งสาง

ครอบครัวปาเลสไตน์กำลังข้ามจุดตรวจ

‘เหมือนว่าเขายังไม่ไปไหน ฉันเข้าไปเปิดหน้าต่างในห้องนอนของลูกชายทุกวัน’

‘ฉันพยายามเล่าเรื่องราวมากมายให้สั้นลงเพียง 45 นาที ฉันบอกเขาทุกอย่างทั้งเรื่องทีบ้านและเรื่องโรงเรียนของลูกๆ’

‘ครอบครัวของผู้ต้องขังเตรียมตัวพร้อมเพื่อขึ้นรถไปยังเรือนจำ’

Reference: แปลจากบทความต้นฉบับ The road to reunion: For these families this is all they have