เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา นายปีเตอร์ เมาเรอร์ ประธาน ICRC กล่าวระหว่างเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 73 (The 73rd session of the UN General Assembly – UNGA 73) ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้ผู้นำโลกแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาในเมียนมาและบังกลาเทศด้วยการร่วมกันหาทางออกที่ยั่งยืนต่อสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างสองประเทศ

“วิกฤติรัฐยะไข่กลายเป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่ถูกจับจ้องมากที่สุดในระดับสากลและถูกผูกโยงเข้ากับการเมืองอย่างแน่นหนา ปีที่ผ่านมาพิสูจณ์ให้เห็นแล้วว่า การหาคำตอบที่ดีที่สุด ไม่สามารถเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืนและงานด้านมนุษยธรรมยังเป็นความจำเป็นต่อเนื่องสำหรับทั้งผู้อพยพ ประชาชนในยะไข่ รวมไปถึงชาวบังกลาเทศในพื้นที่

ทั้งนี้ นายเมาเรอร์ ยังได้ให้ความเห็นในประเด็นการเดินทางกลับของผู้อพยพในค่ายลี้ภัยที่คอกส์บาซาร์ ประเทศบังกลาเทศว่า

‘การเดินทางกลับของผู้ลี้ภัย ไม่สามารถพึ่งพาเพียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แต่ต้องรวมไปถึงกระบวนการทางการเมืองที่มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างความมั่นใจในอิสรภาพของประชาชนที่กลับไป พวกเขาเหล่านี้ต้องได้รับสิทธิในการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน มีเสรีภาพในการประกอบอาชีพและดำเนินกิจกรรมทางเศรฐกิจในรัฐยะไข่ และที่สำคัญที่สุด คือมีความมั่นใจในความปลอดภัยทั้งระหว่างและหลังเดินทางกลับ เราต้องเติมเต็มปัจจัยเหล่านี้ เพื่อให้ผู้ลี้ภัยยินดีเดินทางกลับโดยสมัครใจ’

ประธาน ICRC ใช้โอกาศนี้เรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมกันสนับสนุนปัจจัยข้างต้น โดยย้ำว่าตนได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนทั้งสองประเทศและได้เห็นกับตาว่าความยากลำบากของประชาชนในทั้งสองฝั่งทุกข์ยากหนักหนามากเพียงใด

“ในยะไข่ บริเวณที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน แทบไม่มีใครอาศัยเหลือให้เห็น ที่ดินรกร้าง โรงเรียนและศูนย์รักษาพยาบาลเป็นเพียงสิ่งก่อสร้างว่างเปล่าที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”

“ค่ายผู้ลี้ภัยในคอกส์บาซาร์ไม่ได้อยู่ในสภาพทีดีกว่า ชีวิตของผู้คนอยู่ในภาวะฉุกเฉิน ความต้องการขั้นพื้นฐานมากมายยังไม่ได้รับการตอบกลับ พวกเขาต้องรอความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและใช้ชีวิตวันต่อวันกับอนาคตที่ไม่แน่นอน”